พุทธสุภาษิต
¤ โกโธ ทุมฺเมธโคจโร ฯ ความโกรธเป็นอารมณ์ของคนมี ปัญญาทรามฯ
¤ โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติฯ ฆ่าความโกรธได้ อยู่เป็นสุขฯ
¤ โกธํ ฆตฺวา น โสจติฯ ฆ่าความโกรธได้ ไม่เศร้าโศกฯ
¤ โกธํ ทเมน อุจฺฉินฺเทฯ พึงตัดความโกรธด้วยความข่มใจฯ
¤ โกธํ ปญฺญาย อุจฺฉินฺเทฯ พึงตัดความโกรธด้วยปัญญาฯ
¤ ปาปานํ อกรณํ สุขํฯ การไม่ทำบาป นำสุขมาให้ฯ
¤ ปาปํ ปาเปน สุกรํฯ ความชั่วอันคนชั่วทำได้ง่ายฯ
¤ นตฺถิ ปาปํ อกุพฺพโตฯ บาปย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ทำฯ
¤ น ฆาสเหตุปิ กเรยฺย ปาปํฯ ไม่ควรทำบาปเพราะเห็นแก่กิน ฯ
¤ อตฺตนา ว กตํ ปาปํ อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ ฯ ตนทำบาปเอง ย่อมเศร้าหมองเอง ฯ
¤ อตฺตนา อกตํ ปาปํ อตฺตนา ว วิสุชฌติ ฯ ตนไม่ทำบาปเอง ย่อมหมดจดเอง ฯ
¤ กมฺมํ สตฺเต วิภชติ ยทิทํ หีนปฺปณีตตายฯ กรรมย่อมจำแนกสัตว์ คือ ให้ทรามและประณีต ฯ
¤ นตฺถิ ขนฺธสมา ทุกขาฯ ทุกข์เสมอด้วยขันธ์ไม่มีฯ
¤ สงขารา ปรมา ทุกขาฯ สังขาร เป็นทุกข์อย่างยิ่งฯ
¤ ทฬิทฺทิยํ ทุกฺขํ โลเกฯ ความจน เป็นทุกข์ในโลกฯ
¤ อิณาทานํ ทุกขํ โลเกฯ การกู้หนี้เป็นทุกข์ในโลกฯ
¤ กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ ฯ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วฯ
¤ กมฺมุนา วตฺตตี โลโกฯ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมฯ
¤ นิสมฺม กรณํ เสยโยฯ ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำ ดีกว่าฯ
¤ กตสฺส นตฺถิ ปฏิการํฯ สิ่งที่ทำแล้ว ทำคืนไม่ได้ฯ
¤ สติ สพฺพตฺถ ปตฺถิยาฯ สติจำปรารถนาในที่ทั้งปวงฯ
¤ สติมโต สทา ภทฺทํฯ คนผู้มีสติ มีความเจริญทุกเมื่อฯ
¤ สีลํ ยาว ชรา สาธุฯ ศีลยังประโยชน์ให้สำเร็จตราบเท่าชราฯ
¤ สุขํ ยาว ชรา สีลํฯ ศีลนำสุขมาให้ตราบเท่าชราฯ
¤ สีลํ โลเก อนุตฺตรํฯ ศีลเป็นเยี่ยมในโลกฯ
¤ น หิ เวเรน เวรานิ สมฺมนฺตีธ กุทาจนํฯ ในกาลไหน ๆ เวรในโลกนี้ย่อมไม่ระงับ ด้วยการจองเวร ฯ
¤ พาลา หเว นปฺปสํสนฺติ ทานํฯ คนพาลเท่านั้น ย่อมไม่สรรเสริญทานฯ
¤ ททํ ปิโย โหติ ภชนฺติ นํ พหูฯ ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก คนหมู่มากย่อมคบเขาฯ
¤ มนาปทายี ลภเต มนาปํฯ ผู้ให้สิ่งที่ชอบใจ ย่อมได้สิ่งที่ชอบใจฯ
¤ ททโต ปุญฺญํ ปวฑฺฒติฯ เมื่อให้ บุญก็เพิ่มขึ้นฯ
¤ หทยสฺส สทิสี วาจาฯ วาจาเช่นเดียวกับใจฯ
¤ เตสํ วูปสโม สุโขฯ ความสงบระงับแห่งสังขารนั้น เป็นสุขฯ
¤ นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํฯ ความสุข (อื่น) ยิ่งกว่าความสงบ ไม่มีฯ
¤ นิพฺพานํ ปรมํ สุขํฯ นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่งฯ
¤ สุโข พุทฺธานํ อุปฺปาโทฯ ความเกิดขึ้นแห่งท่านผู้รู้ทั้งหลาย นำสุขมาให้ฯ
¤ มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมาฯ ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้าฯ
¤ ธมฺมจารี สุขํ เสติฯ ผู้ประพฤติธรรม อยู่เป็นสุขฯ
¤ ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึฯ ธรรมแล ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมฯ
¤ ปุญฺญํ โจเรหิ ทูหรํฯ บุญอันโจรนำไปไม่ได้ฯ
¤ สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโยฯ ความสั่งสมขึ้นซึ่งบุญ นำสุขมาให้ฯ
¤ ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมึ ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินํฯ เป็นที่พึงของสัตว์ในโลกหน้าฯ
¤ สทฺธา พนฺธติ ปาเถยฺยํฯ ศรัทธารวบรวมไว้ซึ่งเสบียง (คือกุศล)ฯ
¤ สทฺธา สาธุ ปติฏฺฐิตาฯ ศรัทธาตั้งมั่นแล้ว ยังประโยชน์ให้สำเร็จฯ
¤ เย ปมตฺตา ยถา มตาฯ ผู้ประมาทแล้ว เหมือนคนตายแล้วฯ
¤ นานตฺถกามสฺส กเรยฺย อตฺถํฯ ไม่พึงทำประโยชน์แก่ผู้มุ่งความพินาศ ฯ
¤ นตฺถิ อตฺตสมํ เปมํฯ ความรัก (อื่น) เสมอด้วยตนไม่มีฯ
¤ อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโมฯ ได้ยินว่าตนแล ฝึกได้ยากฯ
¤ อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถฯ ตนแล เป็นที่พึ่งของตนฯ
¤ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภาฯ แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา ไม่มีฯ
¤ โยคา เว ชายเต ภูริฯ ปัญญาย่อมเกิดเพราะความประกอบฯ
¤ ปญฺญาย ปริสุชฺฌติฯ คนย่อมบริสุทธิ์ด้วยปัญญาฯ
¤ สจฺจํ เว อมตา วาจาฯ คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตายฯ
¤ ธีโร โภเค อธิคมฺม สงฺคณฺหาติ จ ญาตเกฯ ปราชญ์ได้โภคทรัพย์แล้ว ย่อมสงเคราะห์ญาติฯ
¤ อินฺทฺริยานิ รกฺขนฺติ ปณฺฑิตาฯ บัณฑิตย่อมรักษาอินทรีย์ฯ
¤ น อุจฺจาวจํ ปณฺฑิตา ทสฺสยนฺติฯ บัณฑิตย่อมไม่แสดงอาการขึ้นลงฯ
¤ ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขาฯ ขันติคือความอดทน เป็นตบะอย่างยิ่งฯ
¤ ขนฺติ หิตสุขาวหา ฯ ความอดทน นำมาซึ่งประโยชน์สุข ฯ
¤ นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํฯ ความสุข(อื่น) ยิ่งกว่าความสงบไม่มีฯ